อาหารเป็นเรื่องต้องมีการจัดการไปพร้อมๆ กับการออกกำลังกาย หากว่าเราอยากจะเปลี่ยนแปลงรูปร่าง การทานอาหารเป็นการรับพลังงานเข้าไปในร่างกาย ส่วนการออกกำลังกาย เป็นการนำพลังงานออกมาใช้ เพราะฉะนั้น 2 เรื่องนี้ต้องไปด้วยกันและต้องสอดคล้องกัน คุณจะเห็นได้ว่าบางคนทานอาหารจำนวนมาก แต่ก็ไม่อ้วนสาเหตุเป็นเพราะพฤติกรรมในการใช้ชีวิตของเขามีการเผาผลาญพลังงานอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นกีฬา หรือ การเล่น เครื่องออกกำลังกาย เป็นประจำ หรือการเคลื่อนไหวในแต่ละวันของเขาที่มีการขยับอยู่ตลอด ดังนั้นเขาจึงไม่อ้วน แต่ในทางกลับกัน บางคนทานอาหารเข้าไปนิดเดียวก็พบว่าน้ำหนักขึ้นไปเสียแล้ว เรื่องนี้สาเหตุสำคัญมาจากการที่การรับพลังงานเข้าและออกไม่สอดคล้องกันดังที่กล่าวมา
อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องน้ำหนักแล้ว นอกจากเราจะต้องหันมาเช็คพฤติกรรมประจำวันว่าเราทำอะไรบ้างที่สามารถจะเอื้อต่อการใช้พลังงานแล้ว ในเรื่องอาหารการกินก็ต้องจัดการกันใหม่ ซึ่งในช่วงแรกขอแนะนำว่าอย่าถึงขนาดอดอาหารเพราะมันส่งผลเสียในระยะยาว การหาอาหารที่ทานแล้วอยู่ท้องแต่ให้พลังงานไม่มากเป็นเรื่องที่เหมาะกว่า เช่น การทานเต้าหู้
เนื่องจากเต้าหู้มีสารเลซิตินอยู่มาก สารชนิดนี้ช่วยในการลดไขมันได้เป็นอย่างดี และยังมีกากใยสูงช่วยให้อิ่มท้องและช่วยในเรื่องการขับถ่าย และยังมีส่วนช่วยในเรื่องการทำงานของระบบประสาท ที่สำคัญมันมีพลังงานในตัวน้อย เราทานแล้วอิ่มอยู่ท้องแต่ไม่ทำให้เราอ้วนได้ง่ายๆ เรื่องนี้เหมาะมากสำหรับผู้ที่เริ่มลดน้ำหนัก เพราะการเปลี่ยนแปลงปริมาณอาหารแบบลดลงทันทีทำให้เกิดความหิวรุนแรงและนั่นทำให้หลายคนล้มเหลว เผลอๆ เกิดโยโย่กลับมาอ้วนหนักกว่าเก่าเสียอีก
ดังนั้นในช่วงแรก คุณควรเริ่มจากการเปลี่ยนอาหารจากอาหารพลังงานสูงมาเป็นเต้าหู้ที่ให้พลังงานต่ำ ควบคู่ไปกับการเล่นกีฬา หรือใช้ เครื่องออกกำลังกายลดพุง แบบต่างๆ ก้จะสามารถเห็นผลที่ชัดเจนขึ้นได้ จากนั้นเราก็จะมีกำลังใจ ที่ไปให้ถึงรูปร่างที่เราฝันเอาไว้
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น